Me : MediH

Play your unstable Life game

25531128

เมดิชวิจารณ์ สามสาวทรามทราม

28/11/2010

     วันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน...กับอากาศที่แสนสดใส แดดเปรี้ยงๆสมกับเป็นฤดูหนาว...ทว่าอากาศดันไม่หนาวอย่างเคย เมดิชได้มีโอกาส(กึ่งบังคับ)ไปชม "สามสาวทรามทราม" ละครเวทีผลงานของ Polkadot Production และดรีมบอกซ์ที่ Bluebox Studio ชั้น2 M Theatre ถนนเพชรบุรีตัดใหม่


รูปโฆษณาละครเวที "สามสาวทรามทราม "


เหตุที่ได้ไปดูก็เพราะอาจารย์วิชาศิลปวิจักษ์ที่เราลงเรียนอยู่นั่นแหละ หนึ่งเนื้อหาในศาสตร์แห่งศิลป์นั้นก็คือการแสดง จึงต้องไปสัมผัสรสชาติของการแสดงของจริงกันซะหน่อย

 นัดกับโบ[เลดี้ของเรา...คือ...เพื่อนที่ลงเรียนด้วยกัน] 11.00 น. และออกเดินทางด้วยรถโดยสารไปลงสวนจตุจักร(เพราะมัวแต่โม้จนเลยป้ายเซนทรัล ลาดฯ) และเดินทางต่อด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานีเพชรบุรี มุ่งสู่ทางออกที่ 3 อย่างรวดเร็ว...ก้มดูนาฬิกายังไม่เที่ยงก็เลยเย็นใจ เดินไปป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุด ด้วยความที่ไม่เคยมาแถวนี้ หลงทิศและข้อมูลการเดินทางที่มีน้อยนิดจึงกระโดดขึ้น 206 [ฟรี] โดยง่ายดายเพราะจำได้ว่ามันถึงแน่นอน... ทว่า นั่งได้ซักพักชักจะยังไง ๆ เพราะเหมือนกับมันพาวิ่งกลับม.เกษตร ฯ !! สองชีวิตเลยกระโดดลงจากรถเมลล์ฟรีทันทีที่หน้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินศูนย์วัฒนธรรมฯ

ระลึกชาติและคลำทางกันอยุ่ 2 นาทีจึงทำการประมวลข้อมูลใหม่พบว่า อืม...นั่งผิดฝั่ง ว่าแล้วก็ข้ามฝั่งไปขึ้นรถเมล์ฝั่งตรงข้ามอย่างเร็ว [แวะ 7-11 ซื้อของกิน...เกร็งมากเพราะทั้งเซเว่นมีแต่กระเทยตัวใหญ่ๆเสียงใหญ่ๆหัวเราะแบบโจรใต้ เต็มเลย...มันสาขาอะไรวะเนี่ย] ขึ้น ปอ.206 มาถึงเป้าหมายเวลาเกือบบ่ายโมง เป็นการผจญภัยของคู่หูคู่เอ๋อที่สนุก ฮาและร้อนแดดจริงๆ รวมกลุ่มกับเพื่อนๆน้องๆและอาจารย์เสร็จก็เข้าชมละครอย่างว่าง่าย โดยที่ก่อนเข้าไปพี่ ๆที่เก็บตั๋วจะแจก "ไข่" ให้คนละ 3 ใบ (ไม่ใช่ไข่จริงๆหรอกแต่เป็นไข่ของเล่นสมัยก่อนที่หยอดเหรียญแล้วหมุน ๆ ๆ ๆจนไข่ตกลงมาแล้วก็แกะดูว่าได้อะไร) ซึ่งเอาไว้ลงคะแนนโหวตในตอนท้ายเรื่อง

ใบปลิวของละครเวทีเรื่องนี้




ตั๋วเข้าชมละครเวทีของผมกับโบครับ



"สามสาวทรามทราม" บอกเล่าเรื่องราวความคิดของมนุษย์ในสังคมผ่านตัวละครทั้ง 3 ได้แก่
"เปิ้ล" หญิงสาวที่ฉลาดเลิศไหวพริบดีมีความสามารถและได้ดิบได้ดีจากการหลอกลวงเพื่อนมนุษย์
"นวล"หญิงสาวที่รักและชื่นชอบการเดิมพันทุกชนิดในชีวิต และ
"แอน"หญิงสาวผู้โง่เขลาเบาปัญญาช่างเพ้อฝันและติดละครน้ำเน่างอมแงม ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราว"ทรามทราม"ในชีวิตของพวกเธอโดยมี"ประธานสภาสัมภเวสี"ทำหน้าที่คล้ายกับพิธีกรให้แก่"สมาชิกสภาสัมภเวสี"ซึ่งก็คือผู้ชมทุกท่านที่จะต้องพิจจารณาและตัดสินว่า ใครต้องตกนรกและใครจะได้ขึ้นสวรรค์ 

 ระหว่างที่สามค่อยๆเผยเรื่องราวขณะมีชีวิตของพวกเธอให้เราฟัง(และชม)อยู่นั้น ผู้ชมจะค้นพบว่าละครเวทีเรื่องนี้ได้บอกเล่าความจริงที่มีอยู่จริงในสังคม เรื่องราวของแต่ละคนที่นับได้ว่าเป็นบาป ความผิด ความทราม ถูกลดทอนระดับความเลวร้ายด้วยการยกเหตุผลนานาประการที่ร่วมกับถ้อยคำที่ชวนให้คล้อยตามว่าสิ่งที่พวกเธอทำลงไปนั้น "ไม่ผิด"

คล้ายการเสียดสีและสะท้อนสังคมบนโลกเรา เมื่อใครสักคนได้พลั้งพลาดทางความคิดและลงมือทำในสิ่งที่ผิดลงไปแล้ว พวกเขาเหล่านั้นก็มักจะหยิบเหตุอ้างผลของการทำชั่ว ๆของตนเอง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยภายในอย่างความคิด สติปัญญา ความมั่นคงของจิตใจ หรืออ้างด้วยปัจจัยภายนอกเช่นสภาพแวดล้อมที่อยู่ สังคม สื่อ เหตุการณ์ กรรมพันธุ์ จังหวะของสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ที่ก่อกำเนิดการทำบาปรูปแบบต่างๆขึ้นมา และแน่นอนว่าแต่ละคนนั้นจะมีการอธิบายเหตุผลของการกระทำทราม ๆของพวกเขาอย่างสมเหตุสมผลไม่ต่างจากที่เปิ้ล นวลและแอนทำเลย

ในตอนท้ายของเรื่องเมื่อสามสาวเล่าเรื่องราววุ่นๆของพวกเธอขณะมีชีวิตจบลง สภาสัมภเวสีหรือผู้ชมก็จะต้องพิจจารณาและโหวตตัดสินว่าจะให้พวกเธอตกนรกหรือขึ้นสวรรค์ นอกจากจะให้ผู้ชมมีส่วนร่วมแล้วก็เปรียบเสมือนทัศนคติของสังคมโดยรวมบนโลกแห่งความเป็นจริงที่มองดูและตัดสินการกระทำของพวกเธอทั้งสามว่าดีหรือไม่ดี รวมทั้งวิพากษ์ วิจารณ์ในแต่ละการกระทำว่าดีไม่ดีอย่างไร

สภาสัมภเวสี(ของรอบนี้)


   เสน่ห์ของการเล่าเรื่องที่ผมชอบคือการหยิบยกเรื่องราวน่ากลัวต่างๆ อย่างความตาย ความผิดบาปทางศีลธรรม ความงมงาย มาเล่าให้เราฟัง โดยใช้การเรียงถ้อยร้อยคำพูดใหม่ให้เรื่องเหล่านั้นกลายเป็นเรื่องตลกชวนหัวเราะ ผสมกับการเล่าด้วยน้ำเสียงที่สื่อให้ถึงอารมณ์ตัวละคร และผสานกับการแสดงการทำท่าทางประกอบต่าง ๆของนักแสดงทุกคน ทำให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างน่าติดตาม สนุกสนานระคนความหดหู่ จนคนดูหัวเราะออกมาแม้ว่าในก้นบึ้งหัวใจลึก ๆจริง ๆจะรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่พวกเธอทั้งสามได้กระทำลงไป 

เมื่อถึงเวลาที่สภาฯ จะต้องพิพากษาโทษ ผู้ชมจะต้องเค้นความคิดเพื่อที่จะตัดสินใจ เกิดความขัดแย้งภายในจิตใจและกลไกทางความคิดระหว่างสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่ผิดบาป บวกลบกับความรู้สึกสงสาร ความเห็นใจ หักล้างเหตุผลกลั่นกรองกระทั่งได้คำตอบที่เป็นเพียงการหย่อนไข่ลงในกล่องตัวเลือก

Q : คิดอย่างไรกับละคร ?
A : เป็นเรื่องที่บอกเล่าความจริงของสังคมได้อย่างสร้างสรรค์และนำความตลกร้ายมาเล่นได้อย่างน่าสนใจ

Q : นักแสดงเป็นไงบ้าง ?
A : นักแสดงเก่งมาก การเล่าเรื่องนั้นมีการพูดถึงตัวละครประกอบตัวอื่นๆอีกทว่าผู้แสดงกลับมีเพียงไม่กี่คน นักแสดงคนเดียวต้องดึงบุคลิกของตัวละครทั้งตัวหลักและตัวประกอบ แสดงลักษณะบุคลิกนิสัยเฉพาะตัว ผ่านท่าทางและน้ำเสียง นอกจากนี้ยังต้องสื่ออารมณ์ของตัวละครนั้น ๆ ออกมาโดยที่คนดูไม่งง

Q : ชอบตัวละครตัวไหน? เพราะอะไร?
A : ผมชอบตัวละครทั้ง 3 ตัวเลย เพราะแต่ละคนมีความเป็นเอกลักษณ์ในบุคลิกและความคิด มีมุมมองของตัวเองที่แตกต่างจากคนทั่วไป และแน่นอนที่สุดคือพวกเธอมีความสุขในสิ่งที่ตัวเองทำ(แม้ว่าจะไม่รู้ตัวว่าที่ทำอยู่มันผิด)

Q : แล้วคุณตัดสินอย่างไร?
A : ผมโหวตให้ลงนรกทั้ง 3 คน

Q : ทำไมล่ะ ?
A : เพราะความผิดบาปของทั้งสามคือความจริงที่ต้องได้รับอยู่แล้ว หากยอมรับไม่ได้ก็คงไม่ต่างจากพวกเธอที่จะต้องสรรค์หาเหตุผลมาอ้างเพื่อให้ตนพ้นผิด
กรณีของเปิ้ลคือคิดเข้าข้างตัวเองมาเสมอว่าตัวเองทำถูกแล้ว เข้าใจว่าตนความดีช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เป็นการยกให้ตัวเองเป็นศูนย์กลางและคล้ายการหลอกตัวเอง 
นวลที่รู้ทั้งรู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ไม่ดี บาปแต่ก็หักห้ามใจไม่ได้แม้ว่าจะลังเลใจอยู่หลายครั้งสุดท้ายเธอก็ปล่อยให้ตัณหาเป็นผู้ชนะ

ส่วนแอนสาวสมองช้าปัญญาทึบที่ถูกคนรอบตัวดูแคลนและถูกครอบงำทางความคิดด้วยละคร ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสิ่งที่เพ้อฝันจนถูกหลอกเป็นเหยื่อของคนอื่น หลายคนอาจจะเห็นว่า "ความโง่เป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้" แต่ผมกลับมองว่า "ความเขลานั้นถือเป็นต้นกำเนิดแห่งบาป" เพราะความโง่เขลานั้นมีอานุภาพทำให้เราไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นควรหรือไม่ จะมีใครเดือดร้อนมากน้อยแค่ไหน อย่างในละครเรื่องนี้เหตุที่เธอต้องมีบาปติดตัวเพราะฆ่าผู้อื่นและตนเอง(แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจก็ตามที)

Q : แล้วคุณคิดว่าตัวเองจะถูกตัดสินอย่างไร กับสิ่งที่ทำเมื่อครั้งยังมีชีวิต ?
A : ลงนรกอยู่แล้วสิ ความดีและความเลวมันไม่ได้หักล้างกันซะหน่อยส่วนใครส่วนมันนะ ยอมรับในสิ่งที่ทำลงไปเพราะยังไงเราทุกคนก็ล้วนมีเหตุผลในทุกการกระทำ จะดีหรือชั่วนั้นมันก็อยู่ที่มุมมองเหมือนๆกับที่สามสาวพยายามเล่าให้คุณฟังในมุมมองที่แตกต่างนั่นแหละ



Q : ประโยคไหนในเรื่องที่ชอบ?
 A : "She so stupid, She a buffalo ...but she can ไถนานะคะ",  "147", "เหรียญล้านช้าง" ...ชอบเยอะเลยแต่นึกไม่ออกอ่ะตอนนี้

Q : สุดท้ายละ ละครเวทีเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า....?
A : คนจะเลวก็มักจะมีเหตุผลในการทำความเลวของตัวเอง จนสุดท้ายก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนเลว  


ซักวันเราคงพบกันที่สภาฯ
(by)  Medih C.Rozenkroy

25531124

So if you think u cant Dance

So you cant dance?
Not at all, not even one step.

How you can say that you're taken any trouble to live when you won't even try to dance...

Dance is music made visible
Dance is the world's most famous metaphor
Dance is silent poetry
Dance is mother of arts
Dance is the hidden language of the soul
Dancer are th athletes of god
Nothing is more revealing than dance.
Dancing is dreaming with your feets
Dance to express, not to impress
Dance like nobody's watching
Dance first, Think later... It's the natural order
Let the music move your body
All it takes is to covince your mind to move your friend

No one can arrive from being talented alone. God gives talent, work transforms talent into genius."(- Anna Pavlova)

To touch, to move, to inspire this is the true gift of Dance.
Everyone can dance, The only way to do it is to belive in yourself and do it

Chemistry 23-11-2010

Date : 23112010      Subject : General Chemistry

เรียนเคมีวันนี้มีอะไร "ชวนคิด" มากกว่าที่คุณจะจินตนาการได้...
ผมกำลังพูดถึงอะไรน่ะเหรอ .... อ้อ ก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่อยากจะบันทึกเรื่องของวันนี้ไว้เท่านั้นเอง

เคมีทั่วไปวันนี้ ....โดยอาจารย์ เอ่อ ....[ส.จ.]...

  การเรียนก็เหมือนทุกวันแหละ อาจารย์แกก็สอนงึมงำๆเหมือนทุกๆครั้ง แต่วันนี้มี่อะไรบางอย่างที่ต่างออกไป... นั่นคือ อาจารย์เป็นหวัด ละมั้ง เพราะเวลาสอนไปสักพัก อาจารย์ก็จะหายใจเข้าแรงๆ บางทีก็สูดอากาศเข้าทางซอกฟัน คือยิงฟันแล้วสูดลมเข้าปอดผ่านทางช่องปากนั่นแหละ เสียงมีนจะดังออกไมค์ [ซี้ดดด...] หรือ [ฟึดดด...]

เนื้อหาบทเรียนที่เราเรียนกันอยู่คือ บทที่2พันธะเคมี เรื่อง "ชนิดแรงระหว่างโมเลกุล"  พูดถึงแรงแวนเดอร์วาลส์ (Van der waal force) พันธะไฮโดรเจน (Hydrogen bonding)
พอเอาอาการของอาจารย์รวมกับเนื้อหาของวันนี้เลยให้บรรยากาศในการเรียนเปลี่ยนไป...

"แรงเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ(เอ่อ....แกเล่นมุข มันคือ"แรงลอนดอน"ครับ) เป็นแรง  ฟึดดด...ดึงดูดระหว่างโมเลกุลที่มีขั้วและไม่มีขั้ว ฟึดดด..."
"พอมีแรงจากขั้วลบและขั้วบวก ฟึดดด... โมเลกุล 2 ตัวนี้ก็จะดูดกัน ฟึดดด... แต่ดูดกันไปซักพักมันก็จะเลิก ฟึดดด... ดูดนะคะ"
"รูปร่างโมเลกุลที่ยาวๆ ซี้ดดด... จะมีการสัมผัสกันมากกว่า ก็จะซี้ดดด... ดูดกันมาก และมีจุดเดือดสูง"
"โมเลกุลของสาร 2 ตัวนี้มันจะจุ๊บกันเบาๆแล้วก็แยกกันน่ะคะ ซี้ดดด..."
"พันธะโควาเลนส์จะ ซี้ดดด... แข็งแรงกว่าพันธะไฮโดรเจนนะคะ ซี้ดดด..."

นั่งฟังทั้งคาบ รู้สึกเหมือนอาจารย์เสี้ยนยาพิกลๆแฮะ... *-*
แต่ในที่สุดก็จบบทที่ 2 ซะที ^___^ เฮ้ ~

25531117

Trendy BB [Grik !!]

ณ มหาวิทยาลัยสหสรรพสัตว์แห่งหนึ่ง สัตว์น้อยใหญ่ต่างพากันไปเรียนเพื่อหาความรู้ บางตัวก็ไปเพราะบิดรมารดาจ้างให้มา บางตัวก็มาเพราะไม่รู้จะไปไหนทำอะไร G-Gee สาวน้อยตัวเล็กสายพันธุ์"เพลี้ยอุกาบาต"ได้นั่งคุยกับเทรนดี้ไอดอล"ละมั่งยันฮี"เพื่ออัพเดทข่าวคราวและเหตุการณ์ทั่วไป

G-Gee : บลิ้ง!
Blink : หื้ม ?
G-Gee : วันก่อนอะ ชั้นเจอแพะภูพานตัวนึงหล่อเริ่ดมากเธอ
Blink :  จริงเหรอ? อยู่มหาลัยเราเหรอ?
G-Gee : (พยักหน้า) น่าจะใช่นะชั้นว่า...อืม แต่ไม่รู้ว่าเขาแกล้งเชยรึเปล่านะ
Blink : เอ๊ะ!? แกล้งเชยอะไรยะ จะเล่าก็เล่ามาอย่าอั้นอย่ากั๊กไว้เหมือน....
G-Gee : เหมือน....?
Blink : เออ ช่างมันเถอะ เล่าต่อดิ...
G-Gee : ก็ชั้นเดินเข้าไปหาเขาแล้วก็ถามว่า ขอ PIN BB ได้ไหม?
Blink : แวร้งงงง!!!~ หน้าด้านมาก ไม่น่าเชื่อว่าหน้าเพลียๆซีดๆแบบเธอจะกล้าเดินไปขอ...
G-Gee :  ....
Blink : เอ่อ ... ป่าว ชั้นก็แค่เปรียบเปรยอ่ะ อย่างอนดิจีจี้ ~ อ่ะ ว่ามาซิว่าได้มามั้ย
G-Gee : ไม่ได้อะดิ...เขามองหน้าชั้นแล้วก็บอกว่า "ไม่มีครับ"
Blink : อี๋ยยย์ ~ อะไรอ่ะ เขาไม่กินชะนีรึป่าว
G-Gee :  ชั้นก็ไม่ใช่ชะนีนะบลิ้ง...ชั้นเป็นเพลี้ยอุกา...
Blink :  อ่ะ จ๊ะๆ ชั้นก็ลืมไปว่าเธอเป็นเพลี้ยอิมพอร์ท ไม่เป็นไรน่า
G-Gee : เขาก็ผู้ชายอะแหละ แต่ไม่ได้ใช้ BB อะ
Blink : อ่านะ ~ ถ้าไม่มี BB ก็คุยกันยากสิ...แถมไม่เทรนดี้ด้วย คบไปก็ปวดหัววะแก 
G-Gee :  อืม ชั้นก็ว่า...(Grik!! [เสียงBB] ) อ๊ะ !

จีจี้หยิบบีบีสีชมพูสดใสสวยงามอร่ามตาขึ้นมาอ่านข้อความ...  ไม่นานเธอก็บรรจงกดข้อความตอบกลับไปอย่างคล่องแคล่ว...

Blink : ใครอ่ะ ?....
G-Gee :  ฮยอน ยอน...มันกำลังหาที่จอดรถ
Blink : บอกมันว่าที่จอดรถอาจารย์เยอะแยะไปจอดเลย
G-Gee : อืม...

 ~ Grik!!...คราวนี้เป็นของบลิ้ง ละมั่งยันฮีก้มลงกดบีบีตอบข้อความเช่นกัน ขณะเดียวกันค่างแว่นมองโกลก็เดินทางมาถึงพอดี หล่อนยืนมองเพื่อน 2 ตัวของหล่อนนั่งกดบีบีอย่างสนุกสนาน

Hyon-yon : นี่พวกแกทำไรกันเนี่ย !
Blink : (เงยหน้า) อ้าวอีหยอง กูก็นึกว่ามึงหาที่จอดรถอยู่
G-Gee : (เงยหน้า) ดีจ้าฮยอน ยอน (ทำตาโตแก้มป่องปากจู๋ ชูสองนิ้วแนบแก้ม)
Hyon-yon : ดีจ้า ~ นี่มันจะบ่ายแล้วไปเรียนกันเหอะ (ฮยอนยอนออกปากวชวนให้ทั้งคุ่ลุกขึ้น)
Blink : เออใช่...ลืมเวลาไปเลยนะเนี่ย

และแล้วทั้งสามก็เดินไปเรียนด้วยกันโดยมีบลิ้งเล่าเรื่องของจีจี้ให้ฮยอน ยอนฟัง เมื่อถึงห้องเรียนทั้งสามจึงนั่งลงที่ประจำของตัวเองและสนทนากันต่อ

Hyon-yon : เห่ยวะ ~ แค่บีบีไม่มีใช้ แล้วจะทำอะไรได้วะเนี่ย
Blink :  นั่นเส่ะ เชยก็เชยนะ น่าเบื่อด้วย
G-Gee : อืม....[Grik!!] (ก้มลงตอบบีบี)
Blink : แต่ก็นะ...ฮยอนดูตลิปที่ส่งให้มะคืนรึยัง
Hyon-yon : ยังอ่ะ ทำไมเหรอ
Blink : โห~ก็ชั้นส่งคลิปเสียงอีตาเมื่อม จิ้งจกนายแบบหน้าใหม่ ที่มันด่านักข่าวว่ายุ่มย่ามเรื่องส่วนตัวไง
Hyon-yon : อ๋อ เออๆ ชั้นก็อยากได้เหมือนกัน เดี๋ยวนั่งฟังแล้วมาเมาท์กัน [Grik!!](ก้มดูข้อความในบีบีสีดำอย่างหรู ...ยิ้มนิดหน่อยแล้วกดพิมตอบกลับไป)

G-Gee : อาจารย์สอนไม่ค่อยรู้เรื่องเลยเนอะ [Grik!!]...(ก้มลงตอบบีบี)
Blink :  [Grik!!]...(ก้มลงตอบบีบีก่อนแล้วเงยหน้าขึ้นมาตอบ) เออ...บ่นอะไรอยู่ได้
Hyon-yon : [Grik!!]...(ก้มลงตอบบีบี) ก็นะ...แกสอนข้ามไปข้ามมา ...กุงงหมดละเนี่ย [Grik!!]
G-Gee : [Grik!!]...(ก้มลงตอบบีบี) อีกตั้งชั่วโมงนึงอะ เบื่อชะมัด[Grik!!]...(ก้มลงตอบบีบี)
Blink : [Grik!!]...(ก้มลงตอบบีบี)
Hyon-yon : [Grik!!]...[Grik!!] (ก้มลงตอบบีบี)

 "ขอโทษนะคะ..." เสียงหญิงสาวดังมาจากด้านหน้า ทั้ง 3 เงยหน้าขึ้นสบตากับชะมดน้ำตื้นตัวหนึ่งที่หันมาเรียกด้วยเสียงราบเรียบ

ชะมดน้ำตื้น : เราชื่อสวยค่ะ คณะการจัดการฯ (ยิ้ม)
G-Gee : ค่ะ...ยินดีที่ได้รุ้จักค่ะ (รับด้วยเสียงแอ๊บแบ๊วน่ารัก) [Grik!!]...(ก้มลงตอบบีบี)
Suay : ใช้บีบีกันนานรึยังคะ
Blink : [Grik!!]...(ก้มลงดูแต่ไม่ตอบ) ก็นานแล้วนะ...ก่อนที่จะมาฮิตกันอีก (ทำสายตาเหยียด)
Hyon-yon : บลิ้ง !~ (เสียงดุ...ก่อนที่จะหันมาพูดกับสวย) ทำไมเหรอคะ

Suay : ทราบวิธีปิดเสียงมั้ยคะ ?
Blink : ทราบค่ะ...คุณสวยปิดไม่เป็นเหรอค่ะ !! [Grik!!]...(ก้มดูบีบีแล้วกดตอบรวดเร็ว)
Hyon-yon : เอ่อ ~ คุณสวยปิดไม่เป็นเหรอคะ ?
Suay : เปล่าคะ สวยไม่ได้ใช้บีบีหรอกค่ะ เพียงแต่...
Blink : ฮ่าๆๆๆ ไปอยู่ไหนมาคะ เดี๋ยวนี้ใครเขาก็ใช้บีบีกันนะ ...รู้จัก PIN มั้ยคะเนี่ย [Grik!!]...(ตอบบีบี)
G-Gee : [>,...,<] ฮะๆ งุงิ ~ [Grik!!]...(ก้มลงตอบบีบี)

ตึง!!!! ปลวกสาวข้างๆสวยกระแทกฝ่ามือลงบนโต๊ะเสียงดัง ก่อนที่จะหันกลับมามองด้วยสายตาไม่พอใจ...[Grik!!] หน้าตาของเธอเหมือนปลวกทว่าเธอแต่งหน้าเข้มจัด[Grik!] กรีดตาเข้มและบนหัวเธอมีเปลวไฟเรื่อๆ ใช่แล้ว...[Grik!!]...เธอคือปลวกภูเขาไฟที่แต่งตัวเปรี้ยวเข็ดสะเด็ดญาติชนิดไม่เจียมหน้าไม่ดูสารรูปตัวเองเลย[Grik!!]

ปลวกภูเขาไฟสาว : สุภาพไปก็เท่านั้นสวย !!
Hyon-yon : เอ่อ ใจเย็นๆนะคะ เพื่อนเราไมได้ตั้งใจอะค่ะ
G-Gee : ใช่ค่ะๆ [•__•]  .... งุงิ [Grik!!]...(ก้มลงตอบบีบี)
Blink : อะไร อิปลวก !!
Hyon-yon และ G-Gee : บลิ้ง !!!

ประโยคของบลิ้งทำเอาไฟของปลวกสาวลุกพรึบ ความร้อนแผ่ออกมาจนรุ้สึกได้....[Grik!!]
Suay : งั้นโซเฟียก็บอกเองละกันนะ
G-Gee : เอ๋ บอกอะไรคะ ? [^__^"]  [Grik!!]
Blink : อยากจะถามเรื่องราคาบีบีเหรอค่ะ (สายตาเหยียดพร้อมเบ้ปาก) [Grik!!] (ก้มลงตอบบีบี)
Sophia : เปล่าหรอกค่ะ ดิชั้นก็ไม่ได้ใช้บีบีหรอกนะ
Blink : ฮ่าๆๆๆ เหรอค่ะ แต่ไม่บอกก็พอรู้ล่ะคะ ฮ่าๆๆๆ [Grik!!]

Sophia : แค่อยากจะบอกพวกคุณที่แสนเทรนดี้ว่า[Grik!!] ...ถ้ามีปัญญาขนาดซื้อบีบีมาใช้ก็รู้จักศึกษาวิธีปิดเสียงหน่อยนะคะ กลัวผู้อื่นไม่รู้เหรอคะว่าโง่ขนาดปิดเสียงบีบีไม่เป็น [Grik!!] ... อ้อ! แล้วก็ว่างๆนะหัดไปหาหนังสือมารยาทในที่สารธารณะมาอ่านบ้างจะได้รู้จักเกรงใจชาวบ้าน [Grik!!] นี่มันห้องเรียน ไม่ใช่บ้านหล่อน !!

Suay : (มองด้วยสายตาเหยียด...ท่าทีเป็นศัตรูเต็มคราบ) อืมนะ...โง่ขนาดนี้ก็ไม่รู้ว่าจะอ่านแล้วเข้าใจรึเปล่า[Grik!!] อ่านออกรึป่าวยังไม่แน่ใจเลย ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยนะคะ[Grik!!] เสียงบีบีมันรบกวนสมาธิคนอื่นนะคะ อาจจะโดนตีนใครซักคนในห้องนะคะ [Grik!!]

.....หมดธุระแล้ว2 สาวก็เดินออกจากห้องไป [Grik!!] ทิ้งให้เสียงบีบี [Grik!!] ดังลั่นห้องพร้อมกับสายตาสัตว์น้อยใหญ่ที่มองมาที่พวกเธอทั้ง 3.....

จบดีกว่านะ...!!!

 ปล.เพื่อนๆที่ใช้ BlackBerry ทุกคนก็ใช้ให้พอประมาณนะครับ งดเล่นบีบีในบางสถานที่โดยเฉพาะในโรงหนังและในห้องเรียนครับ ผมเจอบ่อยเลยคนที่นั่งกดแบบไม่เกรงใจกัน เสียงก็ไม่ปิด รำคาญมากครับ เดี๋ยวนี้คนก้มหน้าก้มตากดกันจนเหมือนไม่ได้มาด้วยกัน ผมเคยเจอวัยรุ่น 4 คนที่ฮะจิบังราเมน : เซนทรัลฯลาดพร้าว ไม่พูดไม่จาต่างคนต่างนั่งกดบีบีเอาเป็นเอาตายมาก ราเมนก็ไม่กิน -*- แล้วจะมากันทำไมเนี่ย ยังไงก็ให้มันถูกกาละเทศะนะครับจะได้ไม่โดนดูแคลน


By : Medih C.Rozenkroy

สัตว์เลี้ยงของผม

วันนี้จะมาแนะนำสัตว์เลี้ยงที่เมดิช มักจะพาไปเที่ยวด้วยบ่อยๆ
(ทำหน้าโมเอะ...เอ่อ ทำหน้าแอ๊บแบ้วอะ)มาดูซิว่าคุณมีนิสัยเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวไหนของผม !!~ อิอิ
  

ชื่อ :  มั้ง (Munk)              เพศ : ไม่แน่ใจ
ชนิด : "สมเสร็จน้ำกร่อย"
ประเภท : เลียงลูกด้วยนมกล่อง
นิสัย : ขี้อาย พูดน้อย ไม่มั่นใจในตัวเองว่าเป็นญาติใครกันแน่ช้างก็ไม่ใช่ หมีก็ไม่แน่ หมูก็ไม่เชิง สีก็ไม่รู้ว่าขาว-ดำ หรือ ดำ-ขาวแถมจะอยุ่น้ำเค็มก็ไม่สะดวก น้ำจืดก็ไม่ได้ ต้องอยู่น้ำกร่อยแบบครึ่งๆกลางๆ ไม่แน่ใจอะไรเลย ไม่กล้าตัดสินใจ กลัวการประชันหน้า โลเลและไขว้เขวง่าย เฉื่อยช้า หลายครั้งที่ตัดสินใจตามเพื่อนๆ และบางทีก็โดนเพื่อนๆหลอก


 
ชื่อ :  Sofia โซเฟีย
 เพศ : หญิง (ที่เริศที่สุด)
 ชนิด : "ปลวกภูเขาไฟ"

ประเภท : แมลงอดทน
นิสัย : มั่นใจเกินร้อย เทรนดี้ตัวเหง้า ใจร้อน อารมณ์ร้อน แม้ว่าลักษณะทางกายภาพจะคล้ายปลวกทั่วไปแต่ต่างตรงที่ตัวสีแดงและมีเปลวไฟที่หัวนิดหน่อย  ชอบด่าจิกแบบถึงพริกถึงเกลือ ตรงไปตรงมา ไม่ชอบให้คนติว่าหน้าตาปลวก(เฉยๆ)เพราะเป็นคนละclassกัน


ชื่อ :  เซื่อง (Sueang)

 เพศ : ชายมาตรฐาน

 ชนิด : "คูปรีสันกำแพง"
ประเภท : สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่มาก
นิสัย : เอื้อเฟื้อ ทนทาน ล่ำถึกบึกบึน ชอบแช่โคลน ใจดี ใจเย็นจนเฉื่อยชา ช้า เซื่อง ไม่ค่อยทันชาวบ้าน ชอบแช่โคลนและซอเคล้าคลอลมที่พัดยามเย็น สุนทรี ไม่มีพิษภัย


  

ชื่อ : บลิ้งๆ (Blink)

 เพศ : ที่สาม
 ชนิด : "ละมั่งยันฮี"

ประเภท : สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสังเคราะห์
นิสัย : รักสวยรักงาม เปราะบาง ชอบพูดชอบเม้าท์ สนใจใคร่รู้เรื่องราวของดารา นักร้องและคนรอบๆตัวในทุกๆเรื่องโดยไม่มีเงื่อนไข หมดเวลาไปวันๆกับการบอกเล่าข่าว ฟังข่าวและเสริมความงามให้ตนเอง มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะซื้อบีบีมากดทั้งๆที่ไม่ทราบวิธีปิดเสียงและไม่มีคนจะคุยด้วย เข้าออกคลีนิคศัลกรรมประหนึ่งบ้านพักตากอากาศ คิดว่าเพลงเกาหลีเท่านั้นบนโลกนี้ที่เพราะและทนไม่ได้ที่มีคนวิจารย์ว่าเกาหลีเลียนแบบ และเห็นด้วยกับการที่ชาวไทยเอาตามเยี่ยงอย่างชาติกิมจิ



ชื่อ : จีจี้ (G-Gee)
เพศ : หญิง...น้อยน่ารัก
ชนิด : เพลี้ยอุกาบาต
ประเภท : แมลง-ต่างดาว

ลักษณะและนิสัย : เป็นเพลี้ยจากกาแลกซีดงอิปอบ ตัวขาว ตัวเล็ก กินกลูต้าไธโอนและครีมกวนอิมเป็นอาหาร ชื่นชอบดาราและเป็นเพื่อนสนิทกับบลิ้ง บลิ้ง คิดว่าตัวเองเหมือนโฟร์ชาวโลก (โฟร์-มด) ชื่นชอบเพลงเกาหลีทุกเพลง แพ้ดาราเกาหลีทุกคนที่ศัลกรรมและมีซิกแพค เวลาว่างมักจะบินร่อนไปเที่ยวตามห้างแม้จะไม่มีเงินก็ตามที เชี่ยวชาญด้านการพูดคุยด้วยภาษาอีโมชั่น รักการเที่ยวกลางคืนเพราะเชื่อว่าเมื่อแสงสว่างถูกลดทอนแล้วตัวเองจะสวยขึ้นและเรืองแสงได้

 

 ชื่อ : ฮยอน ยอน (Hyon yon)
 เพศ : ชายมาก่อน
 ชนิด : ค่างแว่นมองโกล
ประเภท : สัตว์เลี้ยงลูกไม่เป็น
นิสัย : ชอบเกาหลีอย่างบ้าคลั่ง รักกิมจิ สนับสนุนการศัลกรรมและการเต้นโคพเวอร์เพลงเกาหลีมาก แต่งหน้าเก่งและมีความสุขกับการออกงานสังคม ชื่นชอบการถ่ายรูประยะประชิด และสนิทกับ 2 ตัวข้างบน




  

ชื่อ : อุ่มกึ๊ก (Umkeuk)

 เพศ : เมีย
 ชนิด : อึ่งทะเลทราย
 ประเภท : สัตว์สะเทือนบกและสะเทือนน้ำ...

นิสัย : รักการกินและทุกอย่างที่ไม่ใช่ของตัวเอง อยากได้ทุกอย่างโดยไม่สนประโยชน์ ไม่สนว่ามีเจ้าของหรือไม่ เต็มใจที่จะกระทำการใดๆก็ตามเพื่อให้ได้มาซึ่งของที่ต้องการ คิดน้อย ใจร้อน ลุกลี้ลุกลนง่าย ขี้กลัวหากถูกตำหนิ และจะติดอ่างเมื่อตื่นเต้น มีน้องสาวต่างพ่อ 1 ตัวชื่อ อุ่มก๊ะ

  
ชื่อ : อุ่มก๊ะ (Umkah)

เพศ : แม่

 ชนิด : อึ่งอะเมซอน

ประเภท :สัตว์สะเทือนสายตา
นิสัย :  นอกจากกินและนอนแล้ว รักการแย่งชิงทรัพย์ทุกประเภทจากผู้อื่น ติดนิสัยชักแม่น้ำทั้ง5เพื่อโน้มน้าวผู้ฟัง แต่ไม่มีใครเชื่อ หากกลัวมากๆจะติดอ่าง และตัวพองเวลาโกรธ มีพี่สาวต่างพ่อ ชื่อ อุ่มกึ๊ก


ชื่อ : สวย (Suay)
เพศ : เพศ-สะ-หยา
 ชนิด : ชะมดน้ำตื้น

ประเภท : สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสะเทินน้ำสะเทินบก
นิสัย : ความอดทนต่ำ ขีวีน ชอบเหวี่ยง ไม่มีอะไรก็เหวี่ยง เถียงเก่ง รักการจิกด่าทุกประเภท ชอบมีส่วนร่วมในการทำร้ายร่างกายแม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับคู่กรณี โวยวายเสียงแบบไม่อายสื่อ เหยียดพวกฟังเพลงเกาหลีและชื่นชอบเพลงสากลที่ใช้พลังเสียงมากๆ เกินความจำเป็น ร้องคาราโอเกะได้หลายชั่วโมงติดต่อกัน



ชื่อ : สีเทา (Se-Taow)

เพศ : ผู้
ชนิด : ไรฝุ่นดาวอังคาร

 ประเภท : เศษ...ที่พิเศษ

 ลักษณะและนิสัย : เดินทางมายังดาวโลกพร้อมเพลี้ยอุกาบาต แต่ถูกลืมบ้าง ถูกเมินบ้าง เลยเรียกร้องควมสนใจด้วยวิธีต่างๆนาๆ เท่าที่จะสรรค์หาได้ แต่ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจ มีแต่คนก่นด่าว่ารำคาญ น้อยใจไปโดดน้ำก็ดันไม่จมเพราะตัวเบากว่า ค่อนข้างไร้ค่าแต่ว่าพยายามในการทำตัวเองให้โดดเด่น ซึ่งก็ยังคงโดดเดี่ยวเดียวดายอยุ่เหมือนเดิม ...

 
 ชื่อ : เศษยางคางคก

 เพศ : -
ชนิด : เศษยางคางคก

ประเภท : วัตถุกึ่งขยะ       หมายเหตุ : ไร้ค่า ไม่มีค่า ไม่น่าสนใจ

ชื่อ : ถ่านเปียกน้ำ

เพศ : - 
ชนิด : ถ่านเปียกน้ำ

ประเภท : วัสดุกึ่งขยะ        หมายเหตุ : ไม่มีโทษ และไร้ประโยชน์ด้วย


ปล. ทั้งสิ้นเป็นคำที่กระผมมักจะใช้ติด่าว่าจิกหรือเล่นมุขกับเพื่อนๆน้องๆที่รู้จักกันดี บางครั้งไม่ได้มีเจตนาจะว่าร้ายขนาดเท่าในความหมาย แต่ที่ว่าไปนั้นส่วนมากจะว่าขำๆฮาๆซะมากกว่า อย่าคิดมากกันนะครับ

25531113

Dear my Enemy

Dear my Enemy who used to be my Friends.
I'm so proud when i find out what you really want to do and have done. You show me ashold behavior, sucks idea, ediot words that u bark out and tell everyknow how jerk u are and Bloody shit of ur second nature. U make fisheries clubhouse tobe gambling den or boozer pub or the last holy stupid that i cant belive that u do is make it to be whorehouse for somebody.... it's enougt for me and my friends too. we wont to bear and care how u thinkin what u ask for.

I promise with my soul Who block my way I'll Splash my Snout Horn deep in your throat.
Sucekr Loser SLOB ╭∩╮(︶︿︶) ╭∩╮

25531110

ความรู้ 2 วัน...ฉันจะตาย

เทอมนี้รุ้สึกว่าเนิร์ด ตั้งใจเรียนเป็นพิเศษจังเลย....เข้ามันทุกคาบทุกวิชา ตั้งใจเรียนซะด้วย ....แต่ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เหอๆ

9-Nov-2010
เมื่อวานเริ่มต้นด้วย Drawing ชิวๆขำๆ พอคาบบ่ายเจออินทรีย์เคมีเล่นงานซะอานด้วยบท Alkane ที่เรียนแบบ Intensive เลย ได้อะไรบ้างอะเหรอ ก็ได้การเขียนกลไก
Conformation Isomer แบ่งเป็น
Stagged Comformer คือ อะตอมทุกตัวที่เกาะ C จะอยู่ห่างกันมากที่สุด
Eclip Conformer คือ อะตอมที่เกาะ C ทั้ง 2 ตัวจะเกาะในลักษณะคล้ายกัน(เหมือนกระจกเงา)


ซึ่งการเขียนแผนภาพจำลองออกมาแบบรูปข้างบนเรียกว่า Sawhourse Projection (แบบม้ากระดานหกคืออะตอมคาร์บอน 2 อะตอมจะไม่ซ้อนทับกัน) และในรูปข้างบน H แทนไฮโดรเจนและจุดที่แยกเป็น 3 แฉกก็คือจุดของ C ที่มีพันธะเดี่ยวกับ C อีกตัวนึง
 การเขียน(หรือดู)ภาพจำลองนั้น สามารถเขียนได้อีกแบบคือ Newman Projection (แบบนิวแมนจะเห็นอะตอม C ตัวเดียวซึ่งมันซ้อนทับกันอยู่) 

...สมบัติทางกายภาพของอัลเคน...ก็พวกสถานะของอัลเคน จุดเดือดจุดหลอมเหลว ขั้ว คุณสมบัติของโซ่ตรงและโซ่กิ่ง...และฝึกการแยก-เปรียบเทียบอัลเคนแต่ละตัวตามคุณสมบัติ...

ต่อด้วย...
Wuetz Reaction,
Corey-house syntensis,
Reduction of alkyl halide,
Hydrolysis of Grignard reagent
และ Hydrogenation of Alkene...แบบอัดให้จบภายในคาบ (โฮววววววว)

เล่นเอาเมดิชมึนไปหลายชั่วโมง... ต้องตั้งสติอ่านใหม่อีกรอบ....

10-Nov-2010

เช้านี้เริ่มต้นด้วยการตื่น.... 7โมง โอ้ววว เมดิชทำได้จริงๆด้วย เดินมาเรียนแบดมินตันที่โรงยิมของมหา'ลัย คาบที่สองของเทอมนี้...มาถึงก็ เชิญตีแบดกันเลย ลองตีกัน จับคู่กับน้องๆ ปี 1 ที่ตีแบบบ้าพลังกันมาก กูรู้แล้วว่าพวกมึ....น้องๆเล่นเก่งกัน ตีกันสุดแรงเกิด มีหยอด มีตบ ...คนแก่จะเป็นลม~
ไม่นานอาจารย์ก็นำพี่ๆ 2 หนุ่มมาช่วยสอนเบสิก การจับไม้และการเสิร์ฟลูก... อนึ่งแล้วค้นพบว่าตัวเองเสิร์ฟแบบสากลมาตั้งแต่เด็กแล้ว ถูกต้องตามทฤษฏีการเล่นเลย.... หลงเข้าใจว่าเสิร์ฟแบบที่น้องๆทำกันเป็นวิธีที่ถูกซะอีก... งานนี้ โบ ป้าของเซคชั่นต้องฝึกหนัก เพราะยังตีแบบนั้นไม่เป็น ส่วนลุงของเซคชั่นอย่างเราก็ฝึกการตีด้วยมือซ้ายไปอย่างสนุกสนาน

จบคาบแรก...กลับมาอาบน้ำแล้วก็บึ่งไปเรียน ศิลปวิจักษ์ (Art Perception) เนื้อหาไม่ค่อยซีเรียส เข้าใจง่ายและเป็นกันเอง วันนี้เรียนเกี่ยวกับองประกอบของภาพจำพวกสี แสง เงา รูปร่างที่ใช้ประกอบในการสื่ออารมณ์ให้ภาพของคนที่รังสรรค์ผลงาน เน้นที่การใช้สีคู่ตรงข้าม(ที่มี 12 สี)ตัดกันในภาพทำให้ภาพเด่นขึ้นมาและการเน้นจุดเด่นให้กับส่วนที่ต้องการเน้นในภาพ

และวิชาฆ่าเซียน ตัวสุดท้ายของวันนี้คือ General Chemistry ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมา ทำเอากู F ไป 4 ไม้(16หน่วย) แล้ว.... วันนี้ อ.สุดจิต ก็ยังสอนสไตล์มึนๆและโดดไปโดดมาเช่นเดิม ทว่า...เพิ่มออปชั่นใหม่ คือเร็วขึ้นและสไลด์อ่านยากขึ้น

อ่านยากยังไงน่ะเหรอ .... ตัวหนังสือขนาดเล็ก...เล็กจริงๆ สีดำ ส่วนพื้นหลังคือสีม่วงเข้มเกือบดำค่อยๆไล่สีไปเป็นสีฟ้า โอ้แม่จ้าวววว มองไม่เห็นโจทย์เลย ...

พันธะเคมีวันนี้ ไอออนิกผานไปได้เพราะว่าอ่านนำมาบ้างแล้ว ทว่าพันธะโควาเลนซ์เนี่ยสิปัญหา...พอสอนเรื่องเรโซแนนซ์แล้ว เจ้ทั่นเล่นรวบมาสอน ประจุฟอมอล เลย...รูปร่างโมเลกุล, อันดับพันธะ, ขั้ว พลังงาน,  AXmEn... ยังไม่ทันเข้าใจเลยแต่ต้องทำให้ได้เพื่อที่จะทำ Formal Charge ของอาจารย์...

พยายามทิ้งอคติออกไป...วางทิฐิจะได้เรียนรู้เรื่อง ดันมาอารมณ์เสียกับการเพ่งมองไสลด์สีมืดหม่น...ยังไม่ทันจะอ่านโจทย์ได้พอบรรทัด ก็เปิดไปหน้าอื่น (เพื่อ!!) จากนั้นก็กลับมาหน้าเดิมแล้วสอนต่อเหมือนกับว่าเราจดโจทย์เสร็จกับแล้ว....อืม....หงุดหงิด ปวดหัวที่สุด ชีวิตกระผม

ฟังเพลง นั่งเหม่อ พักสมองซักครู่ ซักพักแล้วกันวะ.... มาปวดไมเกรน เวียนหน้าจะอาเจียน 2 วันติดแบบนี้ไม่ดีแน่นอนเลย ...ตั้งสมาธิดีๆอ่านให้เข้าใจ จะได้เรียนรุ้เรื่อง....

ฮุ้ยยย !!~ เกิดเป็นคนนี่ลำบากลำบนจนอยากตาย ....พอจะตายก็ฟูมฟายอยากมีชีวิตต่อ เอาใจยากจริงๆ

เมื่อครั้งที่ลุงบุญธรรมของปัดยังมีชีวิตอยู่ เขาเคยพูดกับปัดที่กำลังเครียดเรื่องเรียนว่า
"Dont worry, just study"
ช่วยให้ไม่เครียดเรื่องเรียนได้เยอะ....เลย....เหอๆ

25531109

Organic Chem.

Goshh!! My head gonna be explode.

Today I's study about Wuetz reaction, Corey-house syntensis, Reduction of alkyl halide, Hydrolysis of Grignard reagent and Hydrogenation of Alkene .... that just little part of Alkane lession in Organic Chemistry subjet.

What goin on man.... My head round and round right now.....

25531103

A week @Punt-Nguen Cafe

2010 October, 22

Went to my hometown, Nakhonratchasima where have many deluge area nowaday !! Like other Province there still in the flood out trouble.


I Arrived my 3th Home or Punt-Nguen in eveing...Greet Older Sister and mom then looking for someting for snack. I'll stay here for a week. Think about my weight must be raise for sure because of my gluttony.